ไม่มีใครไม่รู้จักงานอย่าง Don’t Let Me Down หนึ่งเพลงฮิตของปี 2017 งานจาก The Chainsmokers และนักร้อง/นักแต่งเพลงดาวรุ่งชาวอเมริกันอย่าง Daya หรือ Grace Martine Tandon เธอมีพื้นฐานทางด้านดนตรีโดนเด่นตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ด้วยการฝึกฝนเปียโน, ฟรุ๊ต กีต้าร์ และเข้าสู่วงการเพลงในปี 2015 หลังจากนั้นเธอได้ปล่อยเพลงเปิดตัวครั้งแรกในแบบ EP มีเพลงฮิตอย่าง “Hide Away” และ ” Sit Still, Look Pretty” ที่โดดเด่นที่สุด คงหนีไม่พ้นการที่เธอสามารถคว้ารางวัลแกรมมี่ในสาขา Best Dance Recording ร่วมกับ The Chainsmokers ในเพลง Don’t Let Me Down ในปี 2017 มาได้ นั่นเป็นอีกหนึ่งการการันตีในความสามารถรอบด้านของเธอล่าสุดกับซิงเกิ้ลใหม่ ‘Bad Girl’ ที่เธอได้ร่วมงานกับศิลปินหนุ่มหล่อเสียงดีอย่าง Charlie Puth และ Andrew Goldstein ที่เคยร่วมโปรดิวซ์ให้กับ Katy Perry, Demi Lovato, Yungblud และอีกมายมาย
โดยเพลงนี้เดย่าได้พูดถึงความหมายและข้อความที่เธออยากจะสื่อสารกับแฟนๆของเธอว่า นี่คือเพลงที่ใส่ความเป็นตัวตนของเธอมากที่สุดเพลงหนึ่ง การได้พูดถึงช่วงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับจุดยืนของเธอในเรื่องเพศ ความมีอิสระ และกล้าที่จะเป็น ซึ่งทุกสิ่งได้หล่อหลอมความเป็นตัวเธอและถูกตีความหมายออกมาด้วยเพลงนี้“Bad Girl เปรียบเสมือนคำเสียดสี เหมือนเวลาเราเรียกใครว่า ยัยตัวร้าย แต่จริงๆแล้วมันอาจจะหมายถึงการจำกัดความใครสักคนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ และกล้าแสดงตัวตนออกมาในทางที่ถูกที่ควร.
Bad ก็อาจจะไม่ได้แปลว่าแย่เสมอไปนะ”
โดยซิงเกิ้ลนี้ออกมาพร้อมมิวสิควีดีโอฝีมือการกำกับของ Clyde Monroe เพื่อนสาวคนสนิทของเธอ ที่นำฉากแบบไนท์คลับฮอลลิวูดยุคเก่า เป็นสัญลักษณ์ในการหลีกหนีสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเธอ ซึ่งเบื้องหลังของฉากนั้นต่างหากเป็นที่ที่เธอรู้สึกปลอดภัย และเธอได้แสดงออกในสิ่งที่เธอเป็นอย่างอิสระ
