เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ “เชียงใหม่ 48” หรือ CGM48 วงน้องสาว BNK48 โดยได้มีการจัดงานเปิดตัวCGM48 We Need You เจ้า ณ โรงภาพยนตร์ Master Card Cinema ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ล เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา
“ต้อมซัง-จิรัฐ บวรวัฒนะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเอ็นเค โฟร์ตี้เอท ออฟฟิศ จำกัด ได้อธิบายถึงการก่อกำเนิดวง CGM48 ซึ่งขณะนี้มีเด็กสาวมาสมัครแล้วว่า 3,500 คน และในจำนวนนั้นมีชาวต่างชาติร่วมด้วยอีกราว 100 คน โดยจะปิดรับสมัครในวันที่ 15 ก.ค.นี้ซึ่งทุกคนจะต้องทำกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นหลัก โดยจะมีการให้พักค้างในหอพักของวง และเตรียมเอาความเป็นภาคเหนือมาใช้ร่วมกับวงอีกด้วย
“จากการตอบรับที่อบอุ่นของแฟนคลับที่เชียงใหม่ รวมถึงการมีคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนกับกรุงเทพ อีกทั้งการไปเยือนเชียงใหม่ของทาง BNK48 ถึง 14 ครั้ง ทั้งจากการไปออกอีเวนท์ในรูปแบบต่างๆ พอยิ่งไปก็รู้สึกผูกพัน คิดว่าที่นี่น่าจะเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเราได้ อีกทั้งเรื่องวัฒนธรรม เราไม่อยากสร้างวงให้เหมือนกับทาง BNK48 เพราะนั่นคือความเหมือนที่ไม่แตกต่าง ฉะนั้น เมื่อเราได้ทำโปรเจกต์นี้ เราสนใจในความเป็นอัตลักษณ์และแตกต่าง วัฒนธรรมอันหลากหลายที่เราอยากจะนำเสนอผ่าน CGM48 แล้ววัฒนธรรมล้านนา ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เชียงใหม่ น่าจะสร้างความแตกต่างให้กับ CGM48 ได้อย่างน่าสนใจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเอ็นเค โฟร์ตี้เอท ออฟฟิศ จำกัด กล่าว
นอกจากนี้ก็มีการประกาศสมาชิก BNK48 2 คนที่จะย้ายมาร่วมกับวงน้องสาว ก็คือ “รินะ อิซึตะ” สมาชิกทีม BIII จะไปเป็นผู้จัดการวง ส่วนอีกคนคือ “ออม-ปุณยวีร์ จึงเจริญ” สมาชิกรุ่นที่ 2 จะไปเป็นกัปตันวง CGM48 “จ็อบซัง” ยืนยันว่ายังไม่มีสมาชิกรุ่น 1 และ 2 ทราบเรื่องดังกล่าวด้วย
ขณะที่ “จ๊อบ-ณัฐพล” ให้สัมภาษณ์ว่า โปรเจคท์นี้เราคิดมาประมาณ 3-4 เดือนได้ แต่ก่อนหน้านั้นก็มีการคุยกับทางญี่ปุ่นด้วย ในเรื่องของความเป็นไปได้ของการเปิดวงน้องสาว มีความเป็นไปได้ไหม มากน้อยแค่ไหน ก็มีการดูมาตลอด จนกระทั่งมาลงเอยกับสมาชิก 2 คนนี้ ทั้งผู้จัดการวงคนต่อไป และกัปตันวง เราก็มีการคัดเลือกกัน มีทั้งน้องมาคุยด้วย มีทั้งเราเสนอเข้าไปด้วย แล้วการเป็นผู้จัดการวงที่เป็นผู้หญิง ตนเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของ “รินะ” ในการเป็นไอดอลมา 9 ปี ซึ่งตนดูเขามาตลอดไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการซ้อม การคุยกับสมาชิกด้วยกัน และในเรื่องจุดรวมใจหลายอย่าง รวมถึงทักษะที่เขามี สามารถมาพัฒนาวงได้ ในฐานะผู้จัดการวงก็เป็นส่วนหนึ่งที่ “รินะ” จะต้องพัฒนาและเรียนรู้กันไป ทั้งในเรื่องการสื่อสารกับแฟนคลับ เป็นคนกลางระหว่างแฟนคลับ กับผู้บริหาร มองว่าอันไหนคือจุดลงตัวทั้งหมด
ทั้งนี้ “รินะ” จะถือว่าเป็นการย้ายวงเลย เหมือนกับตอนที่เขาย้ายจาก AKB48 มา BNK48 หมายความว่ากิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับ BNK48 ถ้า BNK48 จะออกซิงเกิลใหม่ ก็จะไม่มีชื่อของ “รินะ” เป็นสมาชิกในเพลงแน่นอน ยกเว้นงานเลือกตั้งของ BNK48 ก็ต้องมีสมาชิกของ CGM48 ลงสมัครด้วย เพราะถือว่าเป็น 1 ในสมาชิกของวงเหมือนกัน
ส่วนการย้ายจะมีผลตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น ผู้จัดการวง BNK48 กล่าวว่า จริงๆ ทั้ง “รินะ” และ “ออม” ก็เริ่มมีส่วนร่วมตั้งแต่การคัดเลือกสมาชิกวงด้วย และให้คำแนะนำว่าเขาอยากได้แบบไหน เขาจะต้องทำงานกับสมาชิก CGM48 ทั้งหมด ฉะนั้นเขาควรจะมีส่วนรับรู้ว่าใครจะเข้ามาอยู่ตรงนี้ อันนี้คือระบบการทำงาน แต่ถ้าวันที่ย้ายอย่างเป็นทางการก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพราะว่ายังมีงานที่ค้างอยู่ ทั้งงานจับมือ , งานถ่ายรูป 2 shot หรือ งานกีฬาสี ซึ่งงานสุดท้ายคือ 2 shot น่าจะจบในช่วงตุลาคม หลังจากนั้นทั้งคู่ก็จะเป็น CGM48 อย่างเป็นทางการ
ด้าน “รินะ” เปิดเผยถึงการเป็นผู้จัดการวงน้องใหม่ว่า ตอนแรกก็รู้สึกตกใจค่ะ ก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเราจะทำหน้าที่ได้หรือเปล่า แต่ใน AKB48 ก็มี “ซัซซี่-ริโนะ ซาชิฮาระ” อดีตสมาชิกและผู้จัดการวง HKT48 ก็เคยทำหน้าที่แบบนี้มาเหมือนกัน ตนก็เคยเห็นว่าเขาทำหน้าที่ตรงนี้ยังไงบ้าง แต่การมาทำหน้าที่ตรงนี้ก็มีความรู้สึกว่าเราจะทำอะไรดี เราหวังว่าอยากจะทำให้ทุกคนชอบ CGM48 แล้วก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนช่วยสนับสนุนด้วย ถามว่าเคยไปเชียงใหม่หรือเปล่า ก็เคยแค่ไปตอนทำงาน เลยอาจจะยังไม่รู้วัฒนธรรมของที่นั่น รวมถึงภาษาเหนือด้วย ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังเรียนรู้ภาษาไทยอยู่ จากนี้ก็คงจะต้องเรียนรู้ภาษาเหนือด้วย
ส่วนการเลือก “ออม-ปุณยวีร์” เป็นกัปตันวงนั้น “จ๊อบ-ณัฐพล” กล่าวว่า จริงๆ อาจจะดูเป็นคนน่ารัก หวานๆ แต่ในหลายๆ อย่าง มุมมองของเขา เขาเป็นคนที่มีระบบการจัดการที่ค่อนข้างดี รวมถึงการจัดการในสมาชิก เป็นพี่สาวคนนึงในวงที่ทุกคนให้ความไว้วางใจเหมือนกัน อันนี้คือสิ่งแรกที่ตนมองเห็น ส่วนอีกสิ่งหนึ่งคือการจัดการในชีวิตของเขาเอง เขาได้เกียรตินิยมอันดับ 1 กับการเป็น BNK48 ซึ่งมันยากมากที่ทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย ทำให้ดีทั้งสองอย่างไปด้วย ตนว่าคนในลักษณะแบบนี้สามารถที่จะจัดการกับระบบชีวิตตัวเองได้ดี อีกทั้ง “ออม” เป็นคนเชียงใหม่ด้วย รู้จักทั้งวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว ตนเชื่อว่าจะเป็นจุดที่ดีอีกจุดหนึ่ง ที่สามารถจะเป็นตัวแทนของชาวเหนือได้ ในการที่จะประชาสัมพันธ์ เรื่องท่องเที่ยว วัฒนธรรม รวมถึงอัตลักษณ์ของวง ให้ทุกคนรู้จัก ตนเชื่อว่า ประสบการณ์ของน้องที่เป็น BNK48 มา น่าจะเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า สามารถปรับใช้ใน CGM48 ได้ดี
ทางด้าน “ออม-ปุณยวีร์” กล่าวว่า รู้สึกท้าทาย ตื่นเต้น แล้วก็กดดันมากด้วย เพราะว่าหนูก็เป็นเมมเบอร์ธรรมดามาก่อน แล้วก็มาเป็นกัปตัน ก็เป็นเส้นทางที่ทำให้หนูพัฒนาตัวเองมากขึ้น ทำให้หนูต้องก้าวไปข้างหน้ามากขึ้น เรียนรู้อะไรมากขึ้น แล้วก็เป็นแบบอย่างให้กับน้องๆ ที่กำลังจะเข้ามาด้วย พร้อมที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ที่หนูได้อยู่ BNK48 มา ให้กับน้องๆ
อ่านฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ Manager
