Jared Leto เป็นแฟนตัวยงของซีรีย์หนังสือ A Day in the Life of America ของ National Geographic มานาน ซึ่งซีรีย์นี้เป็นโปรเจคต์ที่ส่งช่างภาพไปทั่วประเทศเพื่อบันทึกเรื่องราวหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งในระยะเวลา 24 ชั่วโมง Jared เชื่อว่ามันเป็นไอเดียที่เจ๋งมากและน่าจะนำมาทำเป็นหนังสารคดีได้อย่างน่าสนใจ
เมื่อวง Thirty Seconds to Mars ปล่อยอัลบั้ม America ออกมานั้น Jared รู้ว่ามันถึงเวลาที่ต้องทำไอเดียนี้ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเสียที จึงส่งทีมช่างภาพ 92 ทีมออกไปเก็บภาพวันที่ 4 กรกฎาคม (วันชาติอเมริกัน) ในรัฐต่างๆ จากทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อนำมาทำเป็นภาพยนตร์ โดยมันเป็นผลงานการกำกับหนังเรื่องแรกของเขา
A Day in the Life of America เพิ่งพรีเมียร์ฉายเป็นครั้งแรกที่ Tribeca Film Festival เมื่อ วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา
“ผมดูมันว่าเป็นเหมือนไทม์แคปซูล เป็นสิ่งที่คนขุดค้นพบใน 100 ปี 1,000 ปีนี้จากนี้ไป มันจะช่วยเป็นเครื่องให้ความรู้ว่าเราเป็นใคร และเรามีชีวิตเป็นอย่างไรในช่วงเวลานี้” Jared บอกกับ The Hollywood Reporter
หลังการฉายรอบพรีเมียร์ Jared Leto ผู้กำกับดีกรีนักแสดงออสการ์ได้ตอบคำถามอธิบายถึงเนื้อหาของภาพยนตร์ว่าทำไมเขาจึงเลือกที่จะแสดงมุมมองจากส่วนที่เป็นด้านมืดของสังคม อย่างเรื่องกลุ่ม White Supremacists หรือคนที่เชื่อว่าเผ่าพันธุ์คนผิวขาวนั้นมีฐานะสูงส่งและเป็นเลิศกว่ากลุ่มเผ่าพันธุ์อื่น ปัญหายาเสพติด และความรุนแรงของมนุษย์
“มีหลายๆ สิ่งจากในหนังที่ผมไม่เห็นด้วย แต่ผมเชื่อว่าเราไม่ควรเซ็นเซอร์ตัวตนของเรา เพื่อนบ้านของเรา และตัวตนของอเมริกา เพื่อที่จะได้เล่าเรื่องราวของชาติในช่วงแห่งความโกลาหลและมีความสำคัญที่ได้อย่างถูกต้อง” Jared กล่าว
“โลกนี้อยู่ยากสำหรับหลายๆ คนในประเทศนี้ และนั่นคือสิ่งที่ผมเห็น ผมไม่ได้เขียนสคริปต์หนังเรื่องนี้ ผมแค่เป็นคนส่งข้อความเท่านั้น”
เมื่อมีคนถามว่าเขามีแผนจะกำกับหนังเรื่องต่อไปไหม Leto ตอบว่าขึ้นอยู่กับโปรเจคต์ “ผมชอบเล่าเรื่องและแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์…มันดีงามมากที่สามารถทำตรงนั้นได้”
