Rocketman หนังชีวประวัติ Elton John มีกำหนดเข้าฉายในเดือนพฤษภาคมนี้ที่สหรัฐอเมริกา และวันที่ 11 กรกฎาคมที่ไทย และมีทีท่าว่าอาจจะได้รับเรต R กำกับมาด้วย เนื่องจากมีแหล่งข่าววงในออกมาว่า Paramount ไม่เแฮปปี้กับฉากหนึ่งที่มีการใช้ยาและรักร่วมเพศ
The Hollywood Reporter รายงานว่า Rocketman ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากการฉายรอบทดสอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ทางสตูดิโอได้ขอให้ Dexter Fletcher (ผู้กำกับ) ตัดฉากเลิฟซีนระหว่าง Elton John (แสดงโดย Taron Egerton) และ อดีตผู้จัดการและแฟนของเอลตัน (แสดงโดย Richard Madden) ให้สั้นลง โดยว่ากันว่า “มีการใช้คำว่า “F__k” เยอะมาก อีกทั้งมีการเปลือยก้นและสูดโคเคน”

แต่ทางผู้กำกับออกมาปฎิเสธเรื่องที่สตูดิโอเข้ามาแทรกแซง โดยได้ทวีตว่า “มีการพูดถึง Rocketman กันเยอะแบบนี้!! ดีมากเลย! หนังยังทำไม่เสร็จสมบูรณ์ดังนั้นทุกอย่างที่ได้ยินเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น นี่คือเรื่องราวที่ไม่มีขีดจำกัด เป็นมิวสิคอลแฟนตาซีที่ทั้งทาง Paramount และผู้จัดทุกคนให้การสนับสนุนอย่างดีและเชื่อในโปรเจคต์นี้อย่างเต็มที่ ดูด้วยตาคุณเองวันที่ 24 พ.ค. นี้”
ด้าน Variety รายงานว่า ได้มีการโชว์ Rocketman ฉบับความยาว 15 นาทีให้ผู้ชมที่ Abbey Road Studios ในลอนดอนเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา โดยพระเอกของเรื่อง Taron Egerton ได้กล่าวต่อหน้าผู้ชมหลังการฉายว่า
“หนังเริ่มด้วย Elton เดินไปเข้ารีแฮบ…ในสภาพย่ำแย่ เหงื่อแตกพลั่ก ขบฟันแน่น…และนั่นคือจุดที่เราเริ่มต้นเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ เราได้เรียนรู้ชีวิตของเขาจากตัวเขาเองที่ย้อนมองกลับไปที่ประสบการณ์ชีวิตในห้องบำบัดแห่งนี้”
“สำหรับเขาแล้ว มันคือจุดยืนที่จะบอกว่า ‘ผมจะทำให้ทุกคนเห็นตัวตนที่แท้จริงในช่วงที่อ่อนแอ หัวใจสลายและยับเยินที่สุด'” ทารอนกล่าว “ผมว่าความกล้าหาญและไม่กังวลต่อสิ่งที่คนอื่นคิดนั้นมันแปลกมาก มันคือสิ่งที่ทำให้ Rocketman มีความพิเศษ เพราะเอลตันอนุญาตให้ผมแสดงออกและยอมให้ผมทำให้เขาดูน่าเกลียดหลายครั้ง และนั่นเป็นเรื่องสำคัญกับผมมาก”
เมื่อพูดถึงฉากเร่าร้อนระหว่างเอลตันกับอดีตผู้จัดการที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก่อนหนังเข้าฉาย ทารอนบอกว่า เรื่องราวของความรักที่แท้จริงจากหนังเรื่องนี้อยู่ที่ “เอลตันและ Bernie Taupin ต่างหาก พวกเขาทำดนตรีเจ๋งๆ ด้วยกันมากว่า 50 ปี แม้ว่าเอลตันจะโชว์ความสัมพันธ์ของเขาและเบอร์นี่ให้เห็นมาตลอด แต่เบอร์นี่ก็ยังเป็นฮีโร่ผู้ปิดทองหลังพระที่อยู่เบื้องหลังเพลงเพราะที่เราชื่นชอบ ดังนั้นหนังเรื่องนี้ได้บอกเล่าความเป็นเพื่อนแท้และการเป็นพาร์ทเนอร์แต่งเพลงของเขาทั้งสอง พอๆ กับการเล่าเรื่องราวชีวิตของไอค่อนผู้เป็นที่รักของเราทั้งหลาย”
