สื่อต่างประเทศ รายงานตรงกันว่า Keith Flint นักร้องนำวง The Prodigy วงดนตรีอิเล็กทรอนิก้าชื่อดังแห่งยุค ’90 ได้เสียชีวิตแล้ว ที่บ้านพักของเขาที่เมือง Essex ประเทศอังกฤษในวัยเพียง 49 ปี
Liam Howlett สมาชิกและผู้ร่วมก่อตั้ง The Prodigy ได้ออกมาโพสต์ทางอินตาแกรมของวงว่า Flint ได้ปลิดชีวิตตัวเองอย่างน่าใจหาย
“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าต้องพูดสิ่งนี้ออกไป แต่ Keith ผู้เป็นเสมือนพี่น้องของเราได้จบชีวิตตัวเองลงไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา” Howlett ยังบอกอีกว่าเขาสะเทือนใจมาก รู้สึกโกรธ สับสนและหัวใจสลายที่เมื่อยินข่าวร้ายนี้
โดย Flint ถือเป็นศิลปินแถวหน้าของวงการดนตรีแดนซ์อังกฤษในยุค ’90 ด้วยดนตรีแดนซ์แบบดิบๆ และหนักหน่วงในสไตล์ที่เรียกว่า อิเล็กทรอนิก้า และด้วยคาแรกเตอร์ ทรงผมที่แหวกแนวสไตล์พังก์ทำให้ Keith Flint ถูกจดจำได้เป็นอย่างดี สำหรับแฟนเพลงอังกฤษในยุคนั้น พวกเขาได้เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นในปี 1997 จากอัลบั้ม “The Fat of the Land” ซึ่งเป็นสตูดิโออัลบั้มแรกของวง ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตอังกฤษและอเมริกา และทำให้ดนตรีแดนซ์อันเดอร์กราวนด์จากอังกฤษเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น
Keith มีชื่อเต็มว่า Keith Charles Flint เขาเกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน ปี 1969 ที่เมือง Redbridge เขต East London แต่ไปโตที่เมือง Briantree แถบชานเมือง Essex
Flint มีชีวิตในวัยเด็กที่ไม่ค่อยมีความสุขนัก พ่อแม่ของเขาแยกทางกันตั้งแต่เขายังเด็ก เขาเลิกติดต่อกับพ่ออย่างเด็ดขาดในภายหลัง Flint เคยบอกกับ The Times of London ไว้
BBC รายงานว่าแม้ว่าเขาจะเป็นเด็กที่ฉลาดแต่เนื่องจากเขาเป็นโรค Dyslexia หรือโรคความบกพร่องในการอ่านหนังสือจึงทำให้มีปัญหาในการเรียนและออกจากโรงเรียนมาตอนอายุ 15 และหลังจากนั้นก็เริ่มทำงานเป็นช่างซ่อมหลังคา
ในปี 1989 Flint พบ Howlett ที่ปาร์ตี้แห่งหนึ่งและได้ขอมิกซ์เทปจาก Howlett ผู้เป็นดีเจ Howlett ให้เทปเขาโดยมีเพลงของเขาเองรวมอยู่ในนั้นด้วย ที่หน้าปกเขียนชื่อว่า Prodigy อยู่ (Prodigy เป็นชื่อของเครื่อง synthesizer ของยี่ห้อ Moog) Flint ฟังแล้วชอบมากจึงขอให้เขาและเพื่อนของเขาชื่อ Leeroy Thornhill ขึ้นเต้นบนเวทีที่ Howlett เล่นด้วย
วงของพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในอังกฤษด้วยซิงเกิ้ลเดบิวต์ “Charly” ปล่อยในปี 1991 อันเป็นแทรคแดนซ์ที่แซมเปิ้ลจากคลิปให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชน ที่มีคำกล่าวว่า “Charly says always tell your mummy before you go off somewhere.” ดูได้จากเอ็มวีนี้
The Prodigy ยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเมื่อรัฐบาลอังกฤษพยายามลดจำนวน rave ปาร์ตี้ในประเทศ อัลบั้มที่สองของพวกเขาชื่อ “Music for the Jilted Generation” ซึ่งมีบีทชวนแดนซ์กระจายและเนื้อร้องต่อต้านการถูกควบคุมได้ซื้อใจแฟนเพลงหนุ่มสาวสมัยนั้นที่จัดสเตจปาร์ตี้กันต่อไปแม้ว่าจะมีกฎหมายห้ามในปี 1994
ความนิยมของวงพุ่งถึงจุดสูงสุดหลังจากที่พวกเขาปล่อยเพลง “Firestarter” ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม “The Fat of the Land” ซึ่งเป็นอัลบั้มที่สาม ที่ซาวนด์ต่างไปด้วยการมิกซ์ดนตรีเรฟปาร์ตี้เข้ากับร็อคกีต้าร์ ที่เหลือคือประวัติศาสตร์
The Prodigy มีกำหนดการทัวร์อเมริกาในเดือนพฤษภาคม ยั���ไม่มีการออกมาแถลงข่าวว่าทางวงจะยังทัวร์ต่อไปหรือไม่หลังจากที่ Flint เสียชีวิตไปแล้ว
เรียบเรียงจาก The New York Times
