Paul McCartney เล่าให้ฟังถึงเรื่องเขาช่วยเหลือตัวเองกับ John Lennon และกลุ่มเพื่อนๆ รวมทั้งพฤติกรรมติดเรทกับสมาชิก The Beatles ที่ทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้น
พอล แมคคาร์ทนีย์กำลังโปรโมทอัลบั้มใหม่ Egypt Station อย่างหนักหน่วง พบสื่อและให้สัมภาษณ์ถี่จนมีบทความใหม่ๆ และเรื่องเล่าที่ต้องร้อง “เฮ้ย จริงดิ” มาให้อ่านไม่ซ้ำกันแต่ละวัน
จากการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร GQ เซอร์พอล ขยายความเรื่องกิจกรรมช่วยเหลือตัวเองที่ทำเป็นกลุ่มกับจอห์น เลนนอนและเพื่อนๆ ที่เขาเล่าไว้ในหนังสือชีวประวัติของตนที่มีชื่อว่า Many Years From Now ที่ตีพิมพ์ในปี 1997 ดังนี้
“เรื่องมันเป็นอย่างงี้ คือผมอยู่ที่บ้านจอห์น กับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง แทนที่จะเมาและปาร์ตี้หัวราน้ำกัน จำไม่ได้ว่าเราว่าจะค้างที่บ้านจอห์นรึเปล่า แต่เรานั่งกันอยู่บนเก้าอี้ ปิดไฟไว้ แล้วก็มีคนหนึ่งเริ่มช่วยตัวเอง ทุกคนก็เลยทำตามกันหมด”
ในกลุ่มนั้นมี McCartney, Lennon, แล้วก็เพื่อนของเลนนอนอีก 3 คน แล้วแต่ละคนก็ร้องชื่อของคนที่นึกถึงระหว่างการช่วยตัวเอง “เราร้อง ‘Brigitte Bardot!’ ‘วู้!’ แล้วทุกคนก็หวดแรงขึ้น” เขาเล่าให้ฟังซะเห็นภาพ
เซอร์พอลเล่าเพิ่มว่าเลนนอนจะแกล้งเพื่อนโดยการร้องตะโกนชื่อ ‘Winston Churchill’ ให้ทุกคนหมดอารมณ์ ส่วนกิจกรรมในวันนั้นเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวหรืออาจจะสองครั้ง เซอร์พอลบอก “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“ก็มันแบบเป็นอะไรที่ทำไปไม่ได้คิดมาก แค่ในกลุ่ม เออ ค่อนข้างพิเรนทร์เหมือนกันนะ คิดดูแล้ว”
“มีอะไรหลายอย่างที่เราทำตอนเป็นเด็กที่พอมองย้อนกลับไปแล้วถามตัวเองว่า ‘เราทำยังงั้นจริงเหรอ’ แต่มันก็เป็นเรื่องไม่มีพิษมีภัยอะไร เราไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้ทำร้ายกระทั่ง Brigitte Bardot”
เซอร์พอลยังเปิดเผยถึงเรื่องที่สมาชิกวง The Beatles ได้ดูมือกีต้าร์ George Harrison เสียพรหมจรรย์ตอนอายุ 17 ปี แล้วก็ปรบมือให้เขาเมื่อเสร็จภารกิจ “ผมคิดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง” เซอร์พอลพยายามนึก และอธิบายเพิ่มเติมว่า “คือเรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะเรื่องของเดอะ บีทเทิลส์เนี่ย มันเป็นเรื่องในตำนาน ผมต้องเช็คความจำก่อน เดี๋ยวนะ ผมจำได้ว่าเรามีเตียงเดี่ยว 1 เตียง แล้วก็เตียง 2 ชั้น แล้วถ้าใครพาสาวกลับมานอนด้วย พวกเขาก็แค่เอาผ้าห่มคลุมไว้ มันก็ไม่ค่อยเห็นอะไรแล้วนอกจากจะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวนิดหน่อย จำไม่ได้ว่าตอนนั้นเป็นตอนที่จอร์จเสียความบริสุทธิ์รึเปล่า อาจจะใช่ก็ได้”
แม็คคาร์ทนีย์บอกว่า เท่าที่จำได้สมาชิกวงไม่ได้มีเซ็กซ์กลุ่มหรือ orgy ด้วยกัน แต่โอกาสที่จะมีเซ็กซ์นั้นอุดมสมบูรณ์มาก เขาบอกว่าเคยมีประสบการณ์แบบ 3 คนพร้อมกัน แต่เขาไม่ชอบแบบนั้น
“ผมว่าจอห์นชอบแบบนั้นมากกว่า เพราะว่าคิดย้อนไปแล้ว ผมจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่เขาเจอคู่หนึ่งในคลับ พวกเขากลับไปที่บ้านด้วยกัน และคนที่เป็นภรรยาชอบจอห์น อยากมีอะไรกับจอห์น ก็เลยจัดไป แล้วจอห์นก็มารู้ว่าคนเป็นสามีดูพวกเขาอยู่” เขารำลึกความหลังให้ฟัง “แบบนั้นเรียกว่าพิสดารนะสมัยนั้น”
“ผมว่าจอห์นมีประสบการณ์ด้านนั้นมากกว่าผม บอกตรงๆ ผมไม่ชอบแบบนั้นนะ ภรรยาคนอื่น คือผมคงไม่อยากให้สามีเขารู้นะถ้าจะทำยังงั้น ฟังดูเหมือนผมมีเหตุมีผลเลย ผมรู้สำนึกมากไปมั้ยเนี่ย ไม่รู้สิ ประสบการณ์ด้านนี้ของผมไม่ค่อยพิสดารมาก แต่มันก็สนุกดี มีเยอะด้วย ก็ดีพอแล้วสำหรับผม”
เซอร์พอลเชื่อว่าการที่สมาชิกวงได้มีโอกาสมีประสบการณ์ด้านนี้ร่วมกันช่วยทำให้ทุกคนใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะพวกเขาต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา “ในทางดนตรี มันทำให้ความสัมพันธ์วงแน่นแฟ้น แต่ในฐานะเพื่อน มันทำให้เราอ่านกันและกันออก”